เรื่องนี้เป็นเรื่องของผมเอง เกิดขึ้นเมื่อประมาณเกือบ 30 ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมยังเป็นวัยรุ่นและชอบดูหนังมากๆ เรื่องมันเกิดในช่วงที่ผมปิดเทอมและกลับไปอยู่ตากับยายที่ต่างจังหวัด ซึ่งผมก็คุ้นเคยกับตายาย ญาติๆ และเพื่อนบ้านแถวนั้นเป็นอย่างดี เนื่องจากผมมาที่นี้ค่อนข้างบ่อย มีอยู่วันหนึ่งเพื่อนข้างบ้านผมมันมาชวนไปดูหนังกลางแปลงที่ศาลเจ้าในหมู่บ้าน ผมจึงรีบตกลงทันทีเพราะชอบดูหนังอยู่แล้ว พอประมาณ 6 โมงเย็น ผมและเพื่อนอีกสองคน (เพื่อนสองคนเป็นแฟนกัน) ก็เดินไปดูหนังด้วยกัน ซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 3 กิโล สมัยนั้นที่บ้านยังไม่มีรถ ต้องเดินและใช้ไฟฉายส่องทาง เมื่อดูหนังเสร็จประมาณเที่ยงคืน ผมและเพื่อนก็พากันเดินกลับบ้าน แต่เพื่อนผมมันขอแยกไปส่งแฟน ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมก็เดินต่อมาเรื่อยๆและผมก็นึกได้ว่าถ้าเดินตัดสวนตรงบึงน้ำใหญ่ก็จะถึงบ้านเร็วขึ้น ระหว่างทางที่ผมเดินเข้าไปก็จะเป็นสวนของชาวบ้าน และมีบึงน้ำใหญ่ๆประจำหมู่บ้าน ผมเดินไปสักพัก ผมก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดเจ้าสาวสีขาวยืนร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้ริมบึง ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไร คิดเพียงว่าผู้หญิงคงทะเลาะกับแฟนเลยออกมาร้องไห้ตรงนี้ ผมจึงเดินเข้าไปหาเพื่อจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น […]
Category Archives: เรื่องเล่าสยองขวัญ
เรื่องที่เราจะเล่านี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวของเราเอง เรื่องเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ตัวเราชื่อพิมพ์ สามีชื่อทศ เราและสามีทำงานที่กรุงเทพ เราทำงานเป็นพนักงานทั่วไป ส่วนสามีเป็นช่างซ่อมรถ เรื่องมันเริ่มจากที่เราสอบติดข้าราชการและที่สำคัญเราได้ไปลงที่บ้านเกิดของเราด้วย เรารู้สึกดีใจมาก ที่จะได้กลับไปอยู่กับพ่อและแม่ เราจึงขอให้แฟนย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านด้วยกันไปเปิดอู่ซ่อมรถแถวบ้าน หลังจากที่เราย้ายกลับมาที่บ้าน พ่อกับแม่เราก็ให้แฟนเปิดอู่ที่บ้าน แต่ลูกค้าไม่ค่อยมีเพราะทำเลไม่ดี อ้อ!ลืมบอกไปบ้านเราอยู่ในสวนทำให้ไม่ค่อยมีคนรู้ว่ามีอู่อยู่ตรงนี้แฟนจึงอยากจะไปเช่าที่ติดถนนใหญ่เพราะว่าคนผ่านไปผ่านมาเยอะเขาจะได้เห็นร้านง่ายๆ และทำให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้น พอดีกับที่เพื่อนของพ่อเขาป่วยติดเตียงอยู่และเมียเขาก็เสียไปแล้วเหลือแต่ลูกสาวที่คอยดูแล โดยพาไปอยู่ด้วยที่กรุงเทพฯ บ้านเลยไม่มีใครอยู่เขาเลยปล่อยให้เช่าแทน เพื่อนของพ่อเราที่พูดถึงแกชื่อนพส่วนเมียแกชื่อนา เราก็จะเรียกแกว่าลุงนพกับป้านาเพราะว่าเรารู้จักกับทั้งสองคนเป็นอย่างดี เพราะตอนเด็กๆพ่อพาเราไปเล่นที่บ้านแกบ่อยๆ ลุงนพเป็นคนใจเย็นและใจดีมาก ส่วนป้านาแกจะเป็นคนรักความสะอาด เจ้าระเบียบและขี้บ่น แต่แกก็ใจดีกับเรา ประมาณปากร้ายใจดี […]
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี 2514 มาแล้ว เป็นเรื่องเล่าของคุณย่าเกี่ยวกับญาติผู้น้องชื่องอ ตอนที่งออายุประมาณ 15-16 ปี งอเป็นคนที่ชอบหากบ หาเขียดตามทุ่งนากับญาติๆในเวลากลางคืน มีคืนหนึ่งซึ่งเป็นคืนเดือนแรม งอก็ออกไปหากบ กับญาติตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ งอเห็นกบอยู่ใต้ใบบัว งอจึงไปตามจับกบตัวนั้น แต่เมื่อจับมาได้พบว่ากบตัวนั้นมีขนาดใหญ่มาก เท่าจานข้าวซึ่งใหญ่กว่ากบทั่วไปมาก แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพียงแค่คิดว่าตัวเองโชคดีจริงๆที่ได้กบตัวใหญ่ขนาดนี้ไม่จำเป็นต้องไปไล่จับกบเพิ่มแล้ว จากนั้นก็จับกบมาหักขาเพื่อไม่ให้กบกระโดดหนีได้ แต่พยายามหักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถหักขากบได้ จึงใช้เสียมที่ติดตัวไปสับขากบให้หัก โดยที่กบยังไม่ตายแล้วจึงหิ้วกลับบ้าน (เนื่องจากกบตัวใหญ่มากจึงไม่สามารถใส่ตะข้องได้ เมื่อถึงบ้านก็ขังใส่ปี๊บไว้ที่หน้าบ้านแล้วเข้านอน รุ่งเช้าเมื่อตาฉ่ำพ่อของงอกลับจากขายข้าว ก็มาหาอะไรกิน แต่ยังไม่มีใครทำกับข้าว งอจึงบอกพ่อว่าเมื่อคืนจับกบมาได้ 1 ตัวให้พ่อเอามาทำกับข้าวกิน เมื่อพ่อไปเปิดดูกบที่ขังอยู่ในปี๊บ เห็นว่าตัวใหญ่มากจึงพูดว่า ใครจะไปกินลงกบตัวใหญ่ขนาดนี้ แล้วจึงโยนกบทิ้งใต้ถุนบ้านที่มีน้ำขังอยู่ จากนั้นก็ไม่มีใครเห็นว่ากบตัวนั้นตายหรือไม่ หรือหายไปไหน อยู่มาไม่นานงอเริ่มมีอาการแปลกๆ หลอนๆ เพ้อ โวยวาย พูดไม่รู้เรื่อง ตาฉ่ำกับยายแต๋วผู้เป็นแม่ จึงหาหมอธรรม มารักษา บางหมอก็ว่าโดนของ […]
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับตัวผู้เขียนเอง ตัวผู้เขียนชื่อชมพู่ อยู่กับหลานสาวชื่อน้องฟ้า เมื่อประมาณต้นเดือนมกราคม ปี 2562 ช่วงนี้เป็นช่วงระยะเวลาที่มีงานทำบุญปิดทองฝังลูกนิมิตตามวัดต่าง ๆ ประชาชนจากพื้นที่อื่น ๆ ไปทำบุญปิดทองฝังลูกนิมิตเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว ในงานนี้ก็มีร้านค้ามาขายของกินของเล่นกันมากมาย ชมพู่และน้องฟ้าได้ไปทำบุญปิดทองฝังลูกนิมิตด้วยเหมือนกัน หลังจากที่ทำบุญปิดทองฝังลูกนิมิตเสร็จก็ได้พาน้องฟ้าไปเดินหาซื้อของกิน ระหว่างที่เดินคุยกันมือก็ชี้โน้นนั้นไปทั่ว เมื่อเดินไปสักพักชมพู่ก็เริ่มรู้สึกปวดที่ไหล่ทั้งสองข้างและเริ่มมีอาการปวดหัวเหมือนจะเป็นไข้ ก็เลยชวนน้องฟ้ากลับบ้าน ในระหว่างทางก่อนกลับบ้าน ชมพู่แวะเอาขนมไปให้พ่อกับแม่ที่บ้านสวนก่อน เพราะเป็นทางผ่านพอดี แต่เมื่อมาถึงบ้านสวนอาการที่ปวดไหล่และปวดหลังของชมพู่ก็หายไป ชมพู่กับหลานจึงอยู่กินข้าวเย็นกับพ่อแม่และพี่สาวที่บ้านสวน หลังจากกินข้าวเสร็จก็นั่งเล่นกับหลานและพี่สาวใต้ต้นพิกุล ส่วนพ่อขึ้นไปสวดมนต์บนบ้าน (พ่อเราสวดมนต์เป็นปกติทุกวัน) เวลาตอนนั้นประมาณหกโมงเย็น ระหว่างที่นั่งเล่นกันอยู่นั้น ชมพู่เริ่มได้กลิ่นหอมเหมือนน้ำอบลอยมา จึงทักขึ้นว่า ”ใครใส่น้ำอบหอมดี” พี่สาวชมพู่จึงดุว่า ‘’เย็นๆค่ำๆได้ยินหรือได้กลิ่นอะไร โบราณเค้าไม่ให้ทัก ‘’ ชมพู่ก็นิ่งไปสักพักหนึ่ง แต่ก็ได้กลิ่นน้ำอบแรงขึ้น จนเริ่มฉุน เหมือนมันเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จึงหลุดพูดขึ้นว่า ไม่มีใครได้กลิ่นจริงๆหรือกลิ่นน้ำอบแรงมากเลย พี่สาวกับหลานสาวเราก็ส่ายหัว เมื่อได้กลิ่นสักพัก ชมพู่เหมือนมีอาการตาแดง น้ำตาเริ่มไหลไม่หยุด พี่สาวเรารีบมาจับตัวเรียก ‘’ชมพู่เป็นอะไร’’ ตอนนั้นชมพู่ไม่สามารถตอบพี่สาวได้ ได้แต่นั่งนิ่งตัวแข็ง […]
- 1
- 2