ฟันร้าวมีลักษณะการเกิดรอยร้าวหรือว่ารอยแตกที่บริเวณผิวฟัน ซึ่งจะมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยจะอาการแสดงออกบ้างเมื่อคนไข้ทานอาหารร้อนจัด หรือว่าเย็นจัด จะเกิดอาการเสียวฟันและมีอาการเจ็บจี๊ด ๆ ในขณะที่เคี้ยวอาหาร นั่นก็คือสัญญาณว่าฟันของคุณกำลังมีรอยร้าว อาการของฟันร้าวเริ่มต้นอาจจะดูไม่ร้ายแรงมากหนัก เพราะอาการที่เกิดขึ้นก็คือ เสียวฟัน และเจ็บฟัน เวลาที่เรากัดหรือว่าทานอาหาร รวมถึงไปการทานอาหารที่ร้อนจัด หรือเย็นจัดจะเกิดอาการเสียวฟัน และจะเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวเท่านั้น แต่ถ้าหากคนไข้มีอาการเจ็บปวดต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา จะไม่ใช่เป็นแค่ช่วงเวลาที่กำลังรับประทานอาหาร แต่เป็นอาการที่บ่งบอกว่าฟันของเราเริ่มจะมีปัญหาแล้ว ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้เกิดการอักเสบที่รากฟันรวมทั้งเหงือกได้ และอาการฟันร้าวก็เกิดมาจากหลาย ๆ สาเหตุโดยที่เราไม่ได้คาดคิดดังนี้ สาเหตุที่ทำให้เกิดฟันร้าว การใช้แรงในการกัด หรือว่าการบดเคี้ยวอาหารที่แข็งมากจนเกินไป คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของช่องปากอยู่ก่อนแล้ว เช่น ฟันที่ทำหน้าที่ไว้บดเคี้ยวอาหารไม่สบกัน จึงทำให้ฟันข้างใดข้างหนึ่งต้องใช้แรงในการบดเคี้ยวมากเกินไป อุณหภูมิภายในช่องปากมีการเปลี่ยนแปลงแบบเฉียบพลันบ่อยครั้ง และเป็นฉะเพราะเมื่อเวลาเรารับประทานอาหารที่มีความร้อนจัด หรือว่าเย็นจัด การนอนกัดฟัน จะทำให้ฟันของเรามีการบดเคี้ยว และกัดที่ค่อนข้างจะแรงในขณะนอนหลับ นั่นจึงเป็นสาเหตุทำให้ฟันของเราเกิดเสื่อม หรือฟันสึก จนทำให้ฟันร้าวได้ การที่มีรอยอุดฟันขนาดใหญ่ เนื่องจากว่าการอุดฟันที่มีขนาดใหญ่อาจจะทำให้ความแข็งแรงของฟันลดลง จนทำให้เนื้อของฟันเกิดเป็นรอยร้าวขึ้นได้ การเกิดอุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบกับฟันโดยตรง อย่างเช่น ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ การทะเลาะวิวาท การเล่นกีฬา เกิดการหกล้ม เป็นต้น ดังนั้นเมื่อเรารู้สึกมีฟันร้าวและอาการแสดงออกอย่างชัดเจนแล้ว ต้องรีบไปพบทันตแพทย์ เพื่อให้ทันตแพทย์ตรวจเช็คอาการทันทีว่าจะต้องรักษาอย่างไร […]
Category Archives: สุขภาพ
หินปูน เกิดมาจากเชื้อแบคทีเรียที่มีอยู่ทั่วไปในช่องปากของเราไปทำปฏิกิริยากับเศษอาหารที่มีอยู่ตามบริเวณของซอกฟัน ทำให้เกิดการสะสมมากจนกลายเป็นฟิล์มเคลือบอยู่ที่ฟันของเรา ซึ่งในช่วงระยะแรก หินปูน อาจจะมีสีขาวขุ่นและนิ่ม สามารถที่จะขจัดออกได้ด้วยการแปรงฟันธรรมดาทั่วไปอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเป็นประจำทุกวัน แต่ก็เป็นไปได้ยากที่เราจะสามารถขจัดคราบหินปูนออกจากทุกซอกของฟัน แต่ถ้าหากไม่ขจัดออกหรือแปรงฟันให้สะอาด โดยเฉพาะตรงบริเวณของซอกฟันด้านใน ก็จะทำให้หินปูนที่นิ่มเกิดการสะสมตกตะกอนและจับตัวกันเป็นก้อนแข็ง ๆ ติดอยู่ตามคอฟัน นอกจากนี้การแปรงฟันที่ไม่ถูกต้อง แปรงไม่ทั่วถึง ก็สามารถทำให้เกิดการสะสมของหินปูนขึ้นได้ ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาหินปูน ได้อย่างทั่วถึงทุกซอกก็คือการ ขูดหินปูนนั้นเอง ซึ่งในระยะที่หินปูนเกิดการแข็งตัวแล้วคนไข้ก็จะไม่สามารถเอาออกเองได้เลย ต้องไปพบทันตแพทย์ให้เป็นผู้ขูดหินปูนออกให้เท่านั้น หลังจากที่ขูดหินปูนเสร็จใหม่ ๆ หรือเกลารากฟันแล้วคนไข้อาจจะมีอาการเสียวฟันตามมาได้ คนไข้อาจจะมีเลือดออกตามบริเวณขอบเหงือก โดยเฉพาะคนที่มีหินปูนสะสมในปริมาณที่มาก ๆ ซึ่งเลือดจะหลุดไหลเองภายใน 1-2 ชั่วโมง และคนไข้ห้ามบ้วนน้ำบ่อย ๆ เพราะจะยิ่งจะเป็นการทำให้เลือดไหลไม่หยุดโดยเฉพาะคนไข้ที่มีหินปูนเกาะเยอะมาก ๆ และเหงือกร่น พอทันตแพทย์เอาหินปูนออก ก็จะมองเห็นรากฟันโผล่ออกมา ซึ่งผิวของรากฟัน มีความหนาน้อยกว่าตรงบริเวณอื่น ๆ ดังนั้นเมื่อสัมผัสโดนน้ำเย็น หรือน้ำร้อน จึงอาจจะทำให้รู้สึกเสียวฟันได้ […]
โดยปกติแล้วคนเราไม่มีใครอยากจะกลืนของอะไรที่ไม่ใช่ของกินลงไปในร่างกายของเราหรอก แต่เพราะอุบัติเหตุหรืออาจจะเป็นเพราะเครื่องมือที่ใช้จัดฟันหลุดเลยทำให้เราเผลอกลืนลงไป เนื่องจากว่าเครื่องมือจัดฟันเป็นเครื่องมือที่อยู่ในช่องปากของเราตลอดเวลา ทำให้การดูแลอย่างไม่เหมาะสมและการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้องก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดอันตรายกับฟันและเครื่องมือจัดฟันได้ ซึ่งพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมนี้เองที่ทำให้เกิดปัญหากับเครื่องมือจัดฟันทำให้บางชิ้นหลุด คนไข้เกิดอาจจะมีความกังวลว่าหากเผลอกลืนเครื่องมือจัดฟันไปจะเป็นอันตรายอะไรหรือไม่ งานนี้เราก็มีคำตอบมาให้กับทุกท่านแล้ว เผลอกลืนเครื่องมือจัดฟันจะเป็นอะไรไหม ? เมื่อเราใส่ติดเครื่องมือจัดฟันในช่องปาก จะทำให้การรับประทานอาหารและการทำสะอาดฟันเป็นเรื่องที่คนไข้จะต้องระวังและต้องใส่ใจให้มากเป็นพิเศษ เพราะหากการรับประทานอาหารที่มีความแข็งและเหนียวบ่อย ๆ ส่วนประกอบต่าง ๆ ของเครื่องมือจัดฟันก็อาจจะหลุดได้ เพราะแรงกระแทกภายในของช่องปากที่เกิดขึ้น แต่ถ้าหากว่าเครื่องมือจัดฟันที่เป็นชิ้นเล็ก ๆ เกิดหลุดในช่องปากแล้วเราเผลอกลืนเครื่องมือจัดฟันลงคอไป อย่างเช่น แบร็คเก็ต หรือยางมัดฟัน ก็ไม่ต้องเป็นกังวลอะไรมากนัก เพราะว่าส่วนประกอบของเครื่องมือจัดฟันนั้นเป็นอุปกรณ์ที่ไม่มีอันตรายต่อร่างกาย และไม่มีสารพิษที่สามารถสะสมหรือว่าสร้างปัญหาให้กับร่างกาย ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายของเราจะทำการกำจัดออกมาเองด้วยการขับถ่ายตามปกติ แต่จะต้องจัดฟันกับทันตแพทย์เฉพาะทางและคลินิกที่ได้รับมาตรฐานมีใบรับรองอย่างถูกต้องเท่านั้น หากเป็นทันตแพทย์เถื่อนหรือเป็นการจัดฟันแฟชั่น เครื่องมือที่ใช้จัดฟันจะไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อตัวเราอย่างยิ่งถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้กลืนลงคอไปก็ตาม เพียงแค่ติดเครื่องมือจัดฟันอยู่ในช่องปากตลอดเวลาสารพิษ หรือสารเคลือบสีต่าง ๆ ที่อยู่บนตัวเครื่องมือจัดฟันที่ไม่ได้มาตรฐานจะทำให้สารดังกล่าวเกิดการสะสมในร่างกายและทำให้มีอาการเจ็บป่วยได้โดยที่ไม่ทราบสาเหตุหรือเสี่ยงติดเชื้อในกระแสเลือด รวมทั้งยังเป็นการจัดฟันที่ไม่ได้ผลแล้วยังทำให้ฟันเรียงตัวกันผิดรูปมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นคนไข้ควรที่จะทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัดในเรื่องของการรับประทานอาหารและการทำความสะอาดของช่องปาก รวมทั้งพฤติกรรมที่เสี่ยงต่าง ๆ เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหากับเครื่องมือจัดฟัน และยังทำให้การจัดฟันเกิดความล่าช้าต้องเพิ่มระยะเวลาในการจัดฟันออกไปอีก คลินิกจัดฟันทันตกรรมราม2 (คลินิกอยู่ตรงข้ามตลาดสด ราม2 มหาวิทยาลัยรามคำแหง2) นัดปรึกษาฟรี โทร. […]
การดื่มนมให้ถูกสุขลักษณะที่ดีของเด็ก นม ถือเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์และสำคัญกับทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ที่นมถือเป็นอาหารหลักและยังส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตของร่างกาย แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการดื่มนมของเด็กนั้นมีผลกับฟันของเด็กด้วย โดยนมจะช่วยเสริมสร้างให้ฟันของเด็กแข็งแรง แต่ก็มีผลกระทบต่อสุภาพฟันและช่องปากของเด็กด้วยถ้าผู้ปกครองดูแลไม่ดี ดังนั้นเราควรดูแลฟันของเด็กตั้งแต่ยังเล็ก เราลองมาดูกันนะคะ ว่ามีวิธีไหนบ้างที่ช่วยป้องกันฟันจากผลกระทบของการดูดขวดนม ไม่ปล่อยให้เด็กดื่มน้ำหรือนมจากขวดเป็นเวลานาน เช่น การให้นอนดูดขวดนมจนหลับ การกระทำดังกล่าวส่งผลเสียต่อฟันมาก เพราะจะทำให้น้ำตาลที่มีในนมมาเกาะฟันเด็ก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของฟันผุในเด็กเล็ก ช่วง 10 เดือนควรหัดให้ลูก เลิกกินนมตอนกลางคืน เพราะการที่ลูกน้อยกินนมช่วงกลางคืนจะหลับคาปาก ทำให้เกิดการสะสมของคราบนม ทำให้เกิดฟันผุได้ ควรให้เด็กใช้ขวดนมไม่เกิน 1 ขวบครึ่ง เพราะช่วงวัยนี้ฟันของเด็กกำลังขึ้น หากเราให้เด็กใช้ขวดนมอยู่จะส่งผลให้ ฟันยื่น ฟันไม่สวย เนื่องจากการดูดจุกนมเป็นเวลานานได้ ข้อนี้หลายๆบ้านอาจจะเป็นเรื่องยากสักหน่อย บางบ้านสงสารลูก บางบ้านทนเสียงร้องไห้ของลูกไม่ไหว แต่เราอยากให้คุณพ่อ คุณแม่อดทน เพื่อสุขภาพฟันของลูกน้อย ห้ามเติมน้ำตาล หรือน้ำผึ้ง หรือวัตถุให้ความหวานลงไปในนมที่เด็กดื่ม เพราะจะทำให้เด็กติดหวาน และ ยังทำให้ฟันผุอีกด้วย ควรควบคุมการทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลให้แก่เด็ก เช่น การทานของว่าง ไอศกรีม น้ำผลไม้ การทานนมที่มีรสชาติหวาน หรืออาหาร ขนมจำพวกช็อกโกแล็ต […]
วิตามินต่างๆนั้นมีความสำคัญต่อร่างกายเรามาก วิตามินแต่ละตัวจะทำหน้าที่แตกต่างกันออกไป วิตามินบางกลุ่มช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ วิตามินบางกลุ่มช่วยบำรุง วันนี้เรามารู้จักวิตามินที่ดีต่อฟันกันดีกว่า วิตามินที่ดีต่อสุขภาพปากและฟันได้แก่ 1.วิตามินซี วิตามินซีมีหน้าที่ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอ และป้องกันไม่ให้เหงือกอักเสบ และวิตามินซียังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันและทำให้แผลในช่องปากหายเร็วขึ้น ถ้าหากเราขาดวิตามินซี เราจะเป็นโรค เลือดออกตามไรฟัน เหงือกอักเสบ 2.วิตามินเอ วิตามินเอนอกจากจะช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณ และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้ว วิตามินเอยังมีส่วนช่วยให้เยื่อบุผิวในช่องปากสร้างน้ำเมือก และทำให้การไหลเวียนของน้ำลายดีขึ้น จึงทำให้ปากไม่แห้ง นอกจากนี้ยังช่วยให้เหงือกแข็งแรงและยังช่วยสมานแผลที่เกิดบริเวณเหงือกให้หายเร็วขึ้นอีกด้วย 3.วิตามินบี วิตามินบีช่วยดูแลสุขภาพในช่องปาก ลดการอักเสบของลิ้นและกระพุ้งแก้ม สามารถรักษาแผลเปื่อยที่ลิ้นให้หายเร็วขึ้น หากปล่อยแผลเปื่อยที่ลิ้นไว้นาน จะทำให้มีกลิ่นปากและติดเชื้อได้ 4.วิตามินดี วิตามินดี […]
หลายๆคนคงเคยพบกับปัญหาเลือดออกตามไรฟันกันมาแล้ว แต่เราอาจจะไม่ค่อยได้ใส่ใจเท่าไหร่นัก เพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือคิดว่าแค่เลือดออกเดี๋ยวก็หายไปเอง แต่ความจริงแล้วนั่นคือสัญญาณเตือนสำหรับโรคเหงือก ซึ่งเราไม่ควรปล่อยไว้ ควรรีบรักษาและหาสาเหตุที่ทำให้เลือดออกตามไรฟัน สาเหตุที่ทำให้เลือดออกตามไรฟันในเบื้องต้นมีดังนี้ 1.การขาดวิตามิน C หลายๆคนคงจะทราบดีกันอยู่แล้วว่า วิตามินซีเป็นตัวช่วยสำคัญในการดูแลฟันและเหงือกให้แข็งแรง ซึ่งถ้าเราขาดวิตามินซีก็จะส่งผลทำให้เราขาดเกราะป้องกันที่ช่วยดูแลเหงือกไป ซึ่งจะส่งผให้เกิดอาการอักเสบ และมีเลือดออก ดังนั้นเราควรรับประทานวิตามินซี ในปริมาณที่พอดีกับร่างกายและควรเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาดและในปริมาณที่เพียงพอ วิตามินซีดีต่อร่างกาย แต่ละเรารับประทานให้พอดีกับความต้องการเพราะถ้าได้รับมากเกินไปก็อาจเป็นนิ่วในไตได้ 2.ดูแลรักษาช่องปากไม่ถูกวิธีและไม่ดีพอ ช่องปากของเราก็เป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกายดังนั้น เราควรดูแลรักษาให้ดีและถูกวิธี โดยการแปรงฟันทุกครั้งหลังมื้ออาหารถ้าไม่สามารถทำครบได้ทั้ง3 มื้อ ก็ควรบ้วนปากหรือใช้ไหมขัดฟันเป็นตัวช่วย อย่าปล่อยได้เศษอาหารสะสมติดค้างอยู่ในปากเป็นเวลานาน เพราะอาจจะทำให้เกิดเชื้อโรคได้ 3.ไม่ควรใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็งเกินไป หรือใช้นานเกินไป การใช้แปรงสีฟันที่ไม่ถูกต้องก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เลือดออกตามไรฟันได้ เนื่องจากแปรงสีฟันที่มีขนแข็งจนเกินไป จะทำให้เกิดการระคายเคืองที่เหงือก เมื่อเหงือกเกิดการบวมหรือเป็นแผลสะสมเป็นเวลานานๆ จะทำให้เชื้อโรคสะสมและลุกลากได้ ดังนั้นเราจึงควรเลือกแปรงให้เหมาะสมและควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 3 เดือน 4.การแปรงฟันที่แรงเกินไป บางคนมีความเชื่อที่ผิดๆว่าการแปรงฟันแรงๆจะช่วยให้ฟันสะอาดมากขึ้น แต่ที่จริงแล้วการแปรงฟันแรงเกินไป มีผลเสียกับฟันมาก ทำให้ระคายเคืองเหงือก ฟันสึก และมีเลือดออกตามไรฟันได้ 5.การใส่เครื่องมือทางทันตกรรมในช่องปาก การใส่เครื่องมือในช่องปากก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้หลายๆคนเกิดเลือดออกตามไรฟัน เช่นการใส่เครื่องมือจัดฟันหรือเครื่องมือเกี่ยวกับฟันปลอม ที่แน่นหรือหลวมเกินไป ซึ่งถ้าเราพบปัญหาจากเครื่องมือทางทันตกรรม เราควรแจ้งทันตแพทย์ที่ดูแลเราทันทีไม่ควรปล่อยไว้ […]
ในชีวิตของเรามีฟันแค่เพียง 2 ชุด ชุดแรกฟันน้ำนม ซึ่งจะหลุดและจากไปตอนประมาณอายุ 8-13 ปี หลังจากนั้นในช่องปากของเราจะมีเป็นฟันแท้ชุดเดียว ชุดสุดท้ายของเราที่ต้องรักษาเอาไว้อย่างดีที่สุด ซึ่งการดูแลช่องปากนอกจากจะต้องแปรงฟัน บ้วนปาก และหาเวลาไปตรวจสุขภาพฟันทุกๆ 6 เดือนแล้ว อาหารการกินของเราก็สามารถช่วยให้ฟันแข็งแรงได้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นของใกล้ตัวที่เราสามารถหาทานง่ายๆ ทั้งนั้น มีอะไรบ้างไปดูกันเลยดีกว่า เห็นมั้ยค่ะว่า อาหารที่ช่วยให้ฟันเราแข็งแรก หาง่ายได้ตามท้องตลาดบ้านเรา รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมไปหาซื้อมาทานกัน เพื่อให้ฟันของเราอยู่กับเราไปนานๆ ค่ะ
รวมคำถามยอดฮิต เป็นคำถามน่าสงสัยที่คนจัดฟันไม่รู้ไม่ได้ การจัดฟัน นอกจากจะช่วยปรับโครงสร้างฟันและการสบฟันให้ทำงานได้ดีขึ้นแล้ว ยังเป็นทันตกรรมเพื่อความสวยงามที่สามารถช่วยให้โครงหน้าของคนไข้ดูเรียวขึ้นด้วย แต่ก่อนที่จะจัดฟันหลายคนมักจะมีคำถามสงสัยเกิดขึ้นมากมาย มีอะไรบ้างไปดูกันเลยดีกว่า 1.จัดฟันเฉพาะฟันบนได้หรือไม่? การจะจัดฟันเฉพาะฟันบนเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่คนไข้ปัญหาของแค่เพียงแค่ฟันเกเล็กน้อย และต้องมีการสบฟันที่ดี แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อมีปัญหาที่จะต้องจัดฟันมักจะเกินทั้งฟันล่างและฟันบน และทันตแพทย์จะแนะนำให้จัดทั้งบนและล่างคู่กันไป เพื่อประสิทธิภาพของผลการรักษาด้วย 2.การติดนิสัยกัดเล็บ สามารถจัดฟันได้หรือไม่? การกัดริมฝีปาก กัดเล็บ การดูดนิ้ว การกลืนผิดปกติ และการหายใจทางปาก เป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติและส่งผลต่อพัฒนาการของกระดูกและฟัน หากทันตแพทย์ตรวจพบว่าคนไข้มีอาการดังกล่าวจะให้บำบัดรักษาอุปนิสัยนี้ให้หายก่อนแล้วค่อยทำการจัดฟัน 3.ระหว่างการจัดฟัน มักจะทำให้ฟันผุง่ายกว่าปกติหรือไม่? การจัดฟัน ไม่ได้ส่งผลต่อการเกิดฟันผุ หากเรารักษาความสะอาดของช่องปากอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ ก็จะไม่มีโอกาสที่ฟันผุจะมาเล่นงานได้ และโดยทั่วไปคนที่จัดฟันมักจะต้องแปรงฟันหลังทานข้าวอยู่เสมอ ซึ่งส่งผลให้สุขภาพฟันดีกว่าคนที่ไม่ได้จัดฟันด้วยซ้ำ 4.ยางแยกฟันคืออะไร? ยางแยกฟัน เป็นเครื่องมือที่ใส่ในการเตรียมฟันก่อนที่จะใส่เครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่น โดยหน้าที่ของ ยางแยกฟัน จะดันฟันหลังซึ่งปกติจะอยู่ชิดกันแน่นให้หลวงขึ้น เพื่อเวลาใส่เหล็กจัดฟันจริงๆ จะได้มีช่องที่สำหรับใส่เหล็กได้ โดยเมื่อเริ่มใส่ยางแยกฟันครั้งแรก จะทำให้คนไข้รู้สึกเจ็บๆ แน่นๆ ฟันเหมือนมีเศษอาหารติดอยู่ หากมีอาการปวดมากๆ สามารถทานยาแก้ปวดได้ แต่จะเป็นเพียงแค่ 2-3 วันแรกๆ เท่านั้น และระหว่างที่ใส่ยางแยกฟัน ไม่ควรทานอาหารที่เหนียวๆ เพราะจะทำให้ติดและดึงเอายางแยกฟันออก […]
การดูแลสุขภาพช่องปากถือเป็นสิ่งที่จำเป็นแล้ว การรักษาความสะอาดของอุปกรณ์ต่างๆที่เราจะใช้นำเข้าปากก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นฟันปลอม รีเทนเนอร์ ล้วนแต้ต้องดูแลเอาใจใส่ในเรื่องความสะอาด เพราะช่องปากคือทางผ่านของเชื้อโรคนะคะ “รีเทนเนอร์” คืออุปกรณ์ที่เราใช้คงสภาพฟันหลังจากการจัดฟัน ซึ่งเราจำเป็นจะต้องใส่ในทุกๆวัน ดังนั้นนอกจากการดูแลความสะอาดแล้ว เราควรดูแลรักษาให้มีอายุการใช้งานที่เหมาะสม เพื่อที่จะไม่ต้องเสียเงินบ่อยๆ เพราะการทำรีเทนเนอร์ชิ้นนึงมีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีดูแลรีเทนเนอร์กันนะคะ โดยเริ่มจากการดูแลรักษาความสะอาดก่อนนะคะ รีเทนเนอร์ (Retainer) มี 2 แบบ 1.รีเทนเนอร์ชนิดถอดได้ รีเทนเนอร์ชนิดนี้ จะประกอบด้วยโครงพลาสติค และมีลวดวางบนตัวฟัน สามารถเลือกสีได้ตามใจชอบ รีเทนเนอร์ชนิดนี้จะสามารถ ถอดเข้า-ถอดออกเพื่อทำความสะอาดได้ และเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น รับประทานอาหาร แปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน 2.รีเทนเนอร์ชนิดติดแน่นที่ถูกยึดติดกับฟันด้านใน มักใช้ติดแน่นบริเวณด้านใน ของฟันหน้าล่าง การทำความสะอาดรีเทนเนอร์ การทำความสะอาดรีเทนเนอร์นั้นเราควรใส่ใจและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอเหมือนกันฟันของเรานะคะโดยมีวิธีการทำความสะอาดง่ายๆดังนี้ 1.เวลาอาบน้ำตอนเข้านอน ให้เอารีเทนเนอร์เข้าไปทำความสะอาดด้วย โดยใช้แปรงสีฟันกับยาสีฟัน หรือน้ำสบู่อ่อนๆ ขัดแปรงที่รีเทนเนอร์เบาๆ แปรงให้ทั่ว หลังจากนั้นล้างน้ำเปล่าแล้วเอาผ้าขนหนูนุ่มๆ หรือทิชชู่มาซับน้ำจากรีเทนเนอร์ให้แห้ง เสร็จแล้วเก็บใส่กล่องให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมไว้ใส่ในวันต่อไป2.ควรเอารีเทนเนอร์แช่เม็ดฟู่สัปดาห์ละครั้ง หรือ […]
โรคข้อเข่าเสื่อม เกิดจากการสลายของกระดูกอ่อน ที่ทำหน้าที่ในการช่วยยืดหยุ่นลดแรงเสียดทานในข้อต่อ ส่วนใหญ่จะพบที่นิ้วมือ นิ้วหัวแม่มือ กระดูกสันหลัง สะโพก เข่า หรือนิ้วเท้าใหญ่ โรคข้อเข่าเสื่อมพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ การใช้ข้อต่อของคุณซ้ำแล้วซ้ำอีกจะทำลายกระดูกอ่อน ทำให้เกิดอาการปวดและบวม น้ำในกระดูกอ่อนและโปรตีนของมันจะสลายตัว สาเหตุโรคข้อเข่าเสื่อม โรคข้อเข่าเสื่อมเกิดขึ้นเมื่อกระดูกอ่อนที่หุ้มปลายกระดูกในข้อต่อของคุณค่อยๆเสื่อมลง กระดูกอ่อนเป็นเนื้อเยื่อที่แน่นและลื่นซึ่งช่วยให้ข้อต่อเคลื่อนไหวได้แทบไม่ต้องเสียดสีหากกระดูกอ่อนเสื่อมลงจนหมด กระดูกก็จะไปเสียดสีกับกระดูก โรคข้อเข่าเสื่อมมักถูกเรียกว่าเป็นโรคเกี่ยวกับการสึกหรอ แต่นอกจากการสลายของกระดูกอ่อนแล้ว โรคข้อเข่าเสื่อมยังส่งผลต่อข้อต่อทั้งหมดอีกด้วย ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของกระดูกและการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ยึดข้อต่อเข้าด้วยกันและยึดกล้ามเนื้อกับกระดูก ยังทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุข้อ ปัจจัยเสี่ยงโรคข้อเข่าเสื่อม ปัจจัยที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคข้อเข่าเสื่อม ได้แก่: อายุมากขึ้นความเสี่ยงของโรคข้อเข่าเสื่อมจะเพิ่มขึ้นตามอายุ เพศ โดยหญิงมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมมากกว่า แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าทำไม โรคอ้วนการรับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อมได้หลายวิธี และยิ่งคุณมีน้ำหนักมากเท่าไร ความเสี่ยงของคุณก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะเพิ่มความเครียดให้กับข้อต่อที่รับน้ำหนัก เช่น สะโพกและหัวเข่าของคุณ นอกจากนี้ เนื้อเยื่อไขมันยังผลิตโปรตีนที่อาจทำให้เกิดการอักเสบที่เป็นอันตรายในและรอบข้อต่อของคุณ อาการบาดเจ็บที่ข้อต่อการบาดเจ็บ เช่น การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นเมื่อเล่นกีฬาหรือจากอุบัติเหตุ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคข้อเข่าเสื่อมได้ แม้แต่อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนและดูเหมือนจะหายดีแล้ว ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคข้อเข่าเสื่อมได้ เกิดความเครียดซ้ำๆ ที่ข้อต่อหากงานหรือกีฬาที่คุณเล่นทำให้เกิดความเครียดซ้ำๆ ที่ข้อต่อ ข้อนั้นอาจก่อให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อมได้ในที่สุด พันธุศาสตร์บางคนสืบทอดแนวโน้มที่จะพัฒนาโรคข้อเข่าเสื่อม ความผิดปกติของกระดูกบางคนเกิดมาพร้อมกับข้อต่อที่ผิดรูปหรือกระดูกอ่อนที่บกพร่อง สิ่งเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเสื่อมสภาพโดยเฉพาะที่สะโพก โรคเมตาบอลิซึมบางชนิดซึ่งรวมถึงโรคเบาหวานและภาวะที่ร่างกายของคุณมีธาตุเหล็กมากเกินไป […]